Eat That Frog! ปรับเปลี่ยนชีวิตด้วยการกิน กบ

เหมือนกับศิลปินที่ยืนอยู่ตรงหน้าผาสีเทา มองดูผ้าใบว่างเปล่า สัมผัสได้ถึงความตึงเครียดและความไม่แน่นอน “Eat That Frog!” ของ Brian Tracy เสมือนเป็นพู่กันสีน้ำเงินที่วาดเส้นแรกบนผืนผ้าใบนั้น ช่วยให้เราเห็นภาพชีวิตที่เป็นระเบียบ และมุ่งไปสู่เป้าหมาย
หนังสือเล่มนี้มีรากฐานมาจากปรัชญาของ Mark Twain ที่ว่า “If it’s your job to eat a frog, it’s best to do it first thing in the morning” และ Tracy ได้นำเอาแนวคิดนี้มาขยายและประยุกต์ให้เข้ากับชีวิตในยุคปัจจุบัน
“Eat That Frog!” ไม่ใช่แค่การชี้นำเราให้รีบร้อนทำสิ่งที่ยากลำบากที่สุดในตอนเช้า แต่อยู่บนรากฐานของการจัดลำดับความสำคัญของงาน และสร้างระบบในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ Tracy อธิบายว่า “กบ” คือตัวแทนของงานที่ท้าทายและน่าเบื่อที่สุดในแต่ละวัน
วิธีการกิน “กบ” : ระบบ 21 วิธีเพื่อเอาชนะความลังเลและเพิ่มผลผลิต
Tracy เสนอ “21 วิธี” ที่เหมือนกับ 21 ทักษะในการฝึกฝนศิลปะการจัดการเวลา:
- กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน: หนังสือเล่มนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการตั้งเป้าหมายที่ SMART (Specific, Measurable, Achievable, Relevant, Time-Bound)
- สร้างรายการ “To-Do”: แบ่งงานออกเป็นส่วนย่อยๆ และจัดลำดับความสำคัญด้วยเทคนิค ABCD
- กำจัดสิ่งรบกวน: Tracy อธิบายถึง “Distractions” หรือตัวแปรที่ขัดขวางความมีประสิทธิภาพ
21 วิธี “กิน กบ” | |
---|---|
แพลนงานทุกวัน | สอนการแบ่งเวลาอย่างชาญฉลาด |
เอาชนะความกลัวและความลังเล | ฝึกให้กล้าเผชิญหน้ากับสิ่งที่ยากลำบาก |
- ใช้เทคนิค “Pomodoro”: ทำงาน 25 นาที แล้วพัก 5 นาที เพื่อรักษาสมาธิ
Tracy แนะนำให้เราคิดถึงชีวิตเป็นงานศิลปะ เราสามารถออกแบบและสร้างสรรค์มันขึ้นมาได้ “Eat That Frog!” เป็นเหมือนคู่มือที่นำเราไปสู่การเป็นศิลปินแห่งการจัดการเวลา
ภาพพจน์: “Eat That Frog!”
หนังสือเล่มนี้มีหน้าปกสีเขียวสดใส มีรูปกบสีเขียวอมน้ำเงินตัวใหญ่ ซึ่งตรงกันข้ามกับเนื้อหาที่จริงจัง และค่อนข้างเป็นทางการ
- แบบเล่ม: ปกอ่อน
- จำนวนหน้า: 256 หน้า
Tracy เขียนด้วยภาษาที่ชัดเจนและเข้าใจง่าย แม้ว่าจะมีเนื้อหาเชิงวิชาการ
“Eat That Frog!” : ผลงานของศิลปิน
Brian Tracy เป็นผู้เขียนหนังสือขายดีในด้านพัฒนาตนเอง และการจัดการเวลา เขาเป็นนักกีฬา โค้ช และนักธุรกิจมาก่อน จึงเข้าใจถึงความท้าทายของการทำงานและการใช้ชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพ
Tracy เชื่อว่าทุกคนสามารถพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นได้ และ “Eat That Frog!” คือเครื่องมือที่ทรงพลังในการทำเช่นนั้น
สรุป:
“Eat That Frog!” เป็นหนังสือที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ:
- เพิ่มผลผลิต
- ลดความเครียด
- จัดการเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ
หนังสือเล่มนี้เป็นเหมือนชิ้นงานศิลปะที่ช่วยให้เราสามารถสร้างชีวิตที่มีคุณภาพสูงขึ้น